เสียงจากใจภายในบอกสัญญาณ
ผู้เขียน
teelek
เผยแพร่ :
11 กันยายน 2567
วันนี้ปรับปรุง :
11 กันยายน 2567

       เมื่อเราอยู่ในอาการสงบโดยใจไม่แกว่ง ไม่ร้อนรน ไม่ฮึดฮัด และไม่ฟุ้งซ่านก็มักจะมีช่วงเวลาหนึ่งที่ใจได้ตกตะกอนนอนก้นสู่ก้นบึ้งของใจ อาการฟุ้งแบบฝุ่นแป้งฟุ้งกระจายจะไม่เกิดขึ้น เสมือนน้ำที่ตะกอนตกแล้ว   ณ จุดนี้เองที่อาการสงบและเบาสบายจะเกิดขึ้น โดยที่สมองกับใจได้ประสานกันเป็นหนึ่งเดียวและจะส่งเสียงกระซิบบอกเราออกมาเป็นสัญญาณจากภายใน สัญญาณจากภายในดังกล่าวจะบอกทิศทางให้เราดำเนินกิจกรรมหรือกระทำการใดๆ ที่ไม่เกิดอาการฝืนใจ ไม่เกิดอาการข่มขืนจิตใจ เป็นอาการเบาสบาย โล่ง และทำกิจกรรมนั้นเองโดยที่ไม่ต้องบังคับขู่เข็ญหรือไม่จำเป็นที่จะต้องเอาสมบัติมาล่อ  มีความรู้สึกอยากทำอะไรก็ตามโดยไม่ต้องมีอะไรมาขู่เข็ญ หรือล่อให้เกิดอาการโลภ อาการหลงเพื่อกระทำกับกิจกรรมนั้น

      เมื่อเรามีการกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งด้วยสมองที่คอยสั่งงานเพื่อกระทำกิจกรรมนั้นอย่างสม่ำเสมอ อาการเคยชินจะเกิดขึ้นและกลายไปเป็นประสบการณ์จนกระทั่งเชี่ยวชาญและชำนาญในสิ่งนั้นจนตกไปสู่จิตใต้สำนึกในที่สุด ด้วยเหตุนี้จุดแรกที่จะกระทำกิจกรรมใดๆ อาจมีแรงต้านจากใจเกิดขึ้นเพราะความไม่เคยชิน แต่ถ้าฝึกกระทำจนเคยชินและใจตอบรับ อาการแรงต้านจะน้อยลงและใจจะตอบรับในที่สุดแล้วความสำเร็จจะมาเยือน  หรือในกรณีที่กระทำการใดก็ตามแล้วใจตอบรับในทันทีนั่นก็อาจจะพบหนทางสองหนทางคือ ความสำเร็จยิ่งยวดกับกิจกรรมนั้น กับอีกทางหนึ่งคือ ความฉิบหายกับกิจกรรมนั้นก็เป็นได้

ดังนั้นการกระทำกิจกรรมที่มีแรงต้านเกิดขึ้นให้เดินหน้าต่อไปสักระยะเพื่อดูว่าใจรับไหวหรือไม่ ถ้ารับไม่ไหวใจจะอุทธรณ์ออกมาเอง   ถ้ารับไหวให้เดินหน้าต่อไปเพื่อไปยังจุดสบายในอนาคตคือ ความเคยชิน เมื่อเคยชินแล้วจะเกิดความคิดสร้างสรรค์เป็นของตนเองที่ภาคภูมิใจ เป็นสิ่งสร้างสรรค์เป็นของตนเอง ณ จุดนี้คือ การเดินมาถึงจุดที่ใจกับสมองร่วมมือกันอย่างสร้างสรรค์ สิ่งที่ได้คือ ผลงานที่ภาคภูมิใจของเรา..

ผมกำลังบอกถึงการกระทำการใดๆ เพื่อให้ได้สิ่งที่สร้างสรรค์เป็นผลงานของเราโดยอาศัยใจภายในเป็นเพื่อนข้างกายแล้วเดินไปสู่จุดหมายด้วยหนึ่งสมองกับสองมือ  การกระทำดังกล่าวจะเป็นการได้พูดคุยกับตัวเอง พูดคุยกับใจของเราแล้วกระทำไปในสิ่งสร้างสรรค์ให้เกิดขึ้น จากนั้นเพื่อนข้างกายซึ่งอาจจะเป็นผู้ช่วย ทีมงาน ผู้สนับสนุน จะเป็นแรงหนุนให้กิจกรรมนั้นลุล่วงไปโดยเร็วกับสิ่งสร้างสรรค์นั้น ลักษณะดังกล่าวเป็นวิธีการที่เหล่านักสร้างสรรค์ผลงานต่างๆ ได้กระทำกัน เช่น นักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ นักประดิษฐ์คิดค้น และนักประพันธ์เพลง อย่างนี้เป็นต้น

เอาล่ะ! ไปดูเรื่องหุ้นกันครับ..

การเล่นหุ้นหรือลงทุนในหุ้น เป็นการกระทำที่ตัวเรากับใจเราจะต้องพูดคุยกันให้รู้เรื่อง !!!!!

#รายละเอียดที่สำคัญมีลักษณะดังนี้

> นักลงทุนมือใหม่มักต้องพึ่งนักวิเคราะห์ พึ่งเพื่อน และข่าวสารต่างๆ แล้วกระทำตามนั้น ตัดสินใจตามนั้นหรือตามคนอื่น  ผลงานออกมาจึงไม่ใช่สิ่งที่น่าภาคภูมิใจเพราะเป็นภาษามายาเกิดขึ้นที่ใจ  เรากับสมองยังไม่ไปทางเดียวกัน อาการฟุ้งแบบฝุ่นแป้งจึงเกิดขึ้น การเล่นหุ้นจึงมีอาการโลภ โกรธ โมโห ผิดหวัง ดีใจ หรือเสียใจ อยู่เสมอ อาการพูดคุยกับตัวเองมักจะเป็นการบ่นและด่าทอ ต่อว่า เช่น กูว่าแล้ว  แม่งเอ้ย กูไม่น่าเลย เออต้องทำใจ เอาใหม่ ไม่เป็นไรถือยาวก็ได้ว่ะ และอื่นๆ อีกมากมาย

>> นักลงทุนมือฉมังมักจะพึ่งพาตนเองและพูดคุยกับตนเอง  โดยนำเอาข้อมูลต่างๆ จากสิ่งรอบข้าง คนรอบข้าง สื่อต่างๆ รอบตัวมาเป็นข้อมูลเพื่อนำไปสังเคราะห์แล้วแปรผลเพื่อจะตัดสินใจและกระทำการลงไป การกระทำเกิดจากตัวเองเป็นหลัก  ผลงานออกมาจะเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจและมีความสุข   กรณีนี้อาการของการพูดคุยกับใจจะเกิดขึ้นในแบบที่มีอาการยิ้ม สงบ ใจเย็น และเป็นสุข เบาสบาย ไม่ทุรนทุราย

นี่คือ..สิ่งที่ผมได้เห็นและพบเจอกับตัวเองดังที่ได้กล่าวมาแล้วในตอนต้น  ส่วนใครจะเห็นด้วยหรือไม่งานนี้มันเป็นเรื่องแบบปัจจัตตัง ใครทำคนนั้นได้ ทำดีผลดีก็จะตามมาต่อตัวเราครับ..