ช่วงที่อ้วนสุดเหิมเกริมตั้งตนขึ้นเป็นฮ่องเต้นั้นได้นำพาเคราะห์ร้ายมาสู่ตนและพวกพ้องอย่างเลี่ยงไม่ได้ สาเหตุก็เพราะว่า ในเมื่อองค์ฮ่องเต้ยังไม่ได้สิ้นพระชนม์ การที่ตั้งตนขึ้นเป็นองค์ฮ่องเต้ก็เปรียบเสมือนก่อการกบฏ เหตุแห่งเคราะห์ร้ายจึงพุ่งเป้ามาแทบทุกทิศทาง และเหตุการณ์ก็ดำเนินไปตามขั้นตอนทันที โจโฉได้รับราชโองการอย่างถูกต้อง (ทั้งๆ ที่องค์ฮ่องเต้เองอาจไม่ได้เต็มใจก็ตาม)ให้ไปปราบกบฏและในขณะเดียวกันก็ส่งราชโองการไปยังหัวเมืองต่างๆให้ช่วยร่วมมือกันปราบกบฏอ้วนสุด
..
เมื่ออ้วนสุดทราบข่าวจากทหารข่าวจึงนำมาซึ่งความวิตกกังวลเป็นอย่างยิ่ง เขาจึงคิดแผนการให้ลิโป้มาช่วยตน โดยการขอเกี่ยวดองกันกล่าวคือ ให้ลูกของตนกับลูกของลิโป้แต่งงานกันเพื่อให้เป็นทองแผ่นเดียวกัน แต่ก็ถูกขัดขวางจากตันก๋งซึ่งเป็นที่ปรึกษาของลิโป้ว่างานนี้ไม่ชอบมาพากลอย่าเพิ่งตัดสินใจโดยให้ยืดเวลาออกไปอีกหนึ่งปีค่อยตัดสินใจก็ได้ ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนแต่อย่างใด
“ท่านลิโป้ ข้าเห็นว่าการที่อ้วนสุดส่งคนมาสู่ขอแต่งงานกับลูกของท่านนั้น มันต้องมีแผนสำคัญคือ ต้องการให้ท่านไปช่วยร่วมรบในสงครามที่จะเกิดขึ้นกับทหารจากเมืองหลวงที่นำทัพหลวงโดยโจโฉ ดังนั้นข้าเห็นว่าเราควรนิ่งเสียก่อนและ wait and see ถ้าแม้นว่าโจโฉพ่ายในศึกครั้งนี้แล้วเราค่อยตอบรับก็ยังไม่สาย ดังนั้นขอท่านโปรดใจเย็นเถิด อย่าเพิ่งผลีผลามรีบร้อน”
ตันก๋งได้อธิบายให้ลิโป้ฟังอย่างละเอียด จากนั้นลิโป้ก็เห็นชอบตามที่ตันก๋งแนะนำ
..
การรอคอยเลือกข้างอยู่กับฝ่ายชนะนั้นเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ wait and see ที่ดีครับ กล่าวคือ ถ้า โจโฉแพ้ก็ค่อยสมานไมตรีกับอ้วนสุดก็ยังไม่สาย แต่ถ้าโจโฉชนะก็ถือว่าไม่ได้เสียหายอะไรมากมายถึงแม้จะไม่ได้ออกร่วมรบกับฝ่ายโจโฉที่ออกหนังสือราชโองการมาให้ร่วมรบก็ตามซึ่งสามารถหาข้ออ้างต่างๆนาๆ ที่สามารถนำมาสาธยายได้หรือแม้แต่การออกร่วมรบในอนาคตก็สามารถทำได้หากจะร่วมมือกัน และจากการประเมินกำลังของตันก๋งซึ่งอ่านเกมขาดว่าฝ่ายโจโฉจะสามารถเอาชนะอ้วนสุดได้แน่ เขาจึงไม่สนับสนุนให้ลิโป้ญาติดีกับอ้วนสุดในเวลานั้น โดยอาศัยการยื้อเวลาออกไปก่อนตามกฎของการแต่งงานที่ใช้เวลาหนึ่งปีในการดูใจในกรณีเป็นลูกของเจ้าเมือง
..
และก็เป็นจริงในที่สุด อ้วนสุดก็พ่ายอย่างหมดรูป นี่ถ้าลิโป้เลือกข้างผิดไปอยู่กับฝ่ายอ้วนสุดอาการการเปลืองตัวของลิโป้ย่อมเกิดขึ้นแน่นอน
..
#การเลือกหุ้นก็เหมือนการเลือกข้าง ที่เราจำเป็นอย่างมากที่ต้องใช้กลยุทธ์ wait and see ไปก่อนรอให้มั่นใจแล้วจึงค่อยตัดสินใจก็ยังไม่สาย อย่ารีบบุ่มบ่ามโดยขาดการไตร่ตรองที่ดีแล้วไปอยู่ข้างผู้แพ้ นั่นหมายถึงหุ้นที่ไร้อนาคต ไร้ความแข็งแกร่ง แต่ถ้าแม้นว่าเป็นหุ้นแข็งแกร่งก็ตาม หากใจไม่อยากร่วมสังฆกรรมด้วยก็ควรหยุด แล้วรอไปก่อนก็ไม่เห็นจะเป็นไร แบบที่ตันก๋งแนะนำครับ..