ผมชื่อ “ บุญทับ ” เนื่องจากผมมีโอกาสได้พูดคุยกับเพื่อนผมมาหลายครั้งจึงอยากจะแชร์เรื่องเล่าระหว่างผมกับเพื่อนสักเล็กน้อย เพื่อนผมคนนี้ชื่อว่า “ สุธรรม ” ในแต่ละครั้งที่พบกันนั้นผมได้ทั้งแง่คิดและรูปแบบการลงทุนที่ชัดเจนหลายอย่างด้วยกันแต่สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นเสมอในขณะเล่นหุ้นหรือลงทุนนั่นคือ อารมณ์ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นขณะที่หุ้นไปแล้วมันอดที่จะหวั่นไหวไม่ได้ มันโอนเอนไปมาจนยากที่จะควบคุมได้ แบบว่าราคาแกว่งไปมาตลอดเวลา บางทีก็มีเหตุผล บางทีก็ไร้เหตุผลยากที่จะอธิบาย
ในเย็นวันหนึ่งผมจึงไม่รีรอที่จะสอบถามเพื่อนผู้รู้คนนี้ ซึ่งใช้เวลาไม่นานการสนทนาระหว่างผมกับเพื่อนรักก็ได้เกิดขึ้น
“ นี่เพื่อนบอกตามตรงนะอารมณ์หลังจากถือหุ้นแล้วมันช่างหวั่นไหวเสียจริง ไม่รู้จะแก้ไขยังไงช่วยแนะนำหน่อย ” ผมเอ่ยขึ้น
“ ได้สิ คืองี้นะหุ้นที่เราซื้อลงทุนถ้าระหว่างทางที่เรารอมันวิ่งไปยังเป้าหมายมันอาจจะนานหลายเดือนหรือปี สองปีอะไรแบบนี้ นายพอเข้าใจประเด็นนี้หรือเปล่า และนายรู้หรือไม่ว่าเป้าหมายคืออะไรและระยะเวลาควรจะนานสักเท่าไหร่ ”
“ ไม่รู้เลยอ่ะ หลังจากซื้อแล้วก็ติดตามดูแต่ราคาหุ้นทุกวันเพื่อรอลุ้นแต่ว่ามันจะขึ้นเมื่อไหร่ ” ผมเอ่ยขึ้น และเหมือนสุธรรมก็อดใจไม่ไหวที่จะอธิบายหลักการลงทุนที่ถูกจริต ถูกใจให้ผมฟังดังต่อไปนี้
“ การลงทุนในหุ้น ถ้ากำหนดกรอบ กำหนดลักษณะของหุ้นที่จะลงทุนได้อย่างมีวินัยรวมทั้งสามารถรู้เป้าหมายว่าราคาหุ้นควรจะวิ่งไปที่ประมาณไหน ช่วงเวลาไหน เดือนไหน เพราะอะไรได้ล่ะก็ …ก่อนที่จะไปถึงจุดขายหุ้นจะไม่มีอาการหวั่นไหวกับการแกว่งตัวของราคาหุ้นหรือถ้ามีก็น้อย นั่นคือการเล่นหุ้นจะมีทิศทางเป้าหมายที่ชัดเจน ” สุธรรมยังเอ่ยต่ออีกเพื่อให้ผมเข้าใจมากขึ้น
“ ถ้าคิดจะเก่งด้านนี้ต้องมียุทธศาสตร์การลงทุนที่ชัดเจน ไม่ใช่ไม่มีแผนการเล่นแต่ลงไปเล่นจะมีแต่แพ้กับแพ้ …นายพอเข้าใจหรือยัง ”
“ พูดน่ะง่ายแต่ทำเราคงจะต้องฝึกอีกหลายขุมเลยล่ะ ”
“ ดีแล้ว ฝึกไปเรื่อยๆ แล้วนายจะเก่ง พยายามต่อไปนะ ” เพื่อนผมเอ่ยขึ้นจากนั้นเราสองคนก็ดื่มเบียร์กันอย่างออกรสในค่ำคืนนั้น